ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 คืออะไร? และบอกอะไรบ้าง?

ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 คืออะไร? และบอกอะไรบ้าง?

เป็นที่ทราบกันดีว่าปัจจุบันนี้ ปัญหาภาระค่าใช้จ่ายในแต่ละครัวเรือนเพิ่มสูงมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะค่าไฟฟ้าที่มีราคาอัตราต่อหน่วยที่แพงขึ้น จึงทำให้เกิดปัญหาค่าไฟฟ้าในครัวเรือนแพงตามมา อย่างไรก็ตามปัญหานี้ทางรัฐบาลได้พยายามแก้ไขอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับประชาชน หนึ่งในวิธีที่จะสามารถช่วยลดภาระค่าไฟลงได้ ก็คือ การใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ติดฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ซึ่งช่วยให้เกิดการใช้ไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพและประหยัดค่าไฟได้มากขึ้นนั่นเอง

ทั้งนี้เพื่อที่จะสามารถช่วยในการแก้ปัญหาภาระค่าไฟฟ้าในครัวเรือนที่สูงได้ จึงจำเป็นอย่างมากที่จะต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องฉลากประหยัดไฟกันให้มากขึ้น ซึ่งจะทำให้เข้าใจได้ดียิ่งขึ้นว่า ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 มีอะไรบ้าง คืออะไร และสามารถลดภาระค่าไฟฟ้าได้อย่างไร ในบทความนี้จึงจะมาอธิบายในเรื่องนี้ให้ได้เข้าใจกันมากขึ้น

ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 คืออะไร? 

ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 คือ สัญลักษณ์ที่แสดงให้เห็นถึงระดับการใช้พลังงานของเครื่องใช้ไฟฟ้า และการให้ข้อมูลเบื้องต้นของเครื่องใช้ไฟฟ้าแต่ละชนิด ไม่ว่าจะเป็น การบอกค่าไฟฟ้า, ขนาด, รุ่น, ยี่ห้อ หรือค่าประสิทธิภาพ โดยกระทรวงพลังงานเป็นหน่วยงานผู้ออกฉลาก จึงทำให้การคำนวณค่าไฟฟ้าต่อปีสามารถทำได้ง่ายมากขึ้น ผู้บริโภคสามารถเลือกผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพสูงแต่ใช้พลังงานน้อย ช่วยให้ประหยัดค่าไฟฟ้า ทั้งในครัวเรือนและในประเทศได้อีกด้วย

ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 แบบใหม่ มีอะไรบ้าง?

ในปี 2567 ที่ผ่านมาได้มีการพัฒนาฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 แบบใหม่ออกมา เพื่อทำให้ผู้บริโภคเข้าใจเรื่องของฉลากประหยัดเบอร์ 5 มากขึ้น และช่วยในการตัดสินเลือกซื้ออุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพสูง ซึ่งฉลากประหยัดไฟรูปแบบใหม่ ได้มีการปรับเปลี่ยนในเรื่องดังต่อไปนี้ 

  • ระดับประสิทธิภาพพลังงาน

ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 แบบใหม่ ได้เปลี่ยนแปลงการแสดงอัตราประหยัดพลังงานของเครื่องใช้ไฟฟ้า โดยมีจำนวนดาวตั้งแต่ระดับ 1-5 ซึ่งระดับของดาวบ่งบอกถึงการใช้พลังงานของอุปกรณ์ไฟฟ้าที่แตกต่างกัน

  • ข้อมูลการลดการปล่อย CO2

สิ่งต่อมาที่มีการปรับเพิ่มในฉลากประหยัดไฟแบบใหม่ คือ เพิ่มข้อมูลเกี่ยวกับการช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ซึ่งเป็นการช่วยให้ผู้บริโภคได้มีโอกาสช่วยลดโลกร้อนได้จากผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าที่เลือกใช้งาน 

  • สัญลักษณ์เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

มีการเพิ่มสัญลักษณ์ขึ้นตอนในการผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ดีและช่วยลดผลกระทบที่จะส่งผลต่อสิ่งแวดล้อมได้

  • QR Code

ในฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 แบบใหม่ ได้มีการเพิ่ม QR Code เข้ามา เพื่อช่วยให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าได้มากขึ้น เช่น ในเรื่องของการใช้งาน, การบำรุงรักษา, การติดตั้งอุปกรณ์ รวมถึงข้อมูลเรื่องอื่น ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อการใช้งาน

  • ข้อมูลค่าใช้ไฟฟ้าต่อปี

สำหรับข้อมูลค่าใช้ไฟฟ้าต่อปีก็เป็นสิ่งที่เพิ่มขึ้นมาในฉลากรูปแบบใหม่เช่นกัน โดยข้อมูลนี้จะช่วยให้ผู้บริโภคสามารถคำนวณค่าใช้ไฟฟ้าต่อปีแบบคร่าว ๆ ของเครื่องใช้ไฟฟ้าได้ แต่ทั้งนี้ตัวเลขที่ปรากฏนั้นในความเป็นจริงอาจแตกต่างไปตามการใช้งานของแต่ละครัวเรือน

  • ค่าประสิทธิภาพของพลังงาน

ฉลากแบบใหม่มีการเพิ่มค่าประสิทธิภาพของพลังงานเข้ามา โดยที่ค่าประสิทธิภาพพลังงานได้มาจากการทดสอบประสิทธิภาพการใช้พลังงานของผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าในรุ่นต่าง ๆ ซึ่งสามารถนำมาใช้เปรียบเทียบกับเครื่องใช้ไฟฟ้าในขนาดหรือรุ่นที่ใกล้เคียงกันได้

  • ข้อมูลของผลิตภัณฑ์

มีการเพิ่มข้อมูลของผลิตภัณฑ์ที่เป็นข้อมูลพื้นฐาน ได้แก่ ยี่ห้อผลิตภัณฑ์, ขนาด, รุ่น และประเภทของผลิตภัณฑ์

กองเหรียญวางอยู่หน้าหลอดไฟ

ความหมายของฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 มีอะไรบ้าง? 

ฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 รูปแบบใหม่ได้มีการปรับเปลี่ยนในเรื่องการแสดงสัญลักษณ์ดาวที่เพิ่มขึ้นจาก 1-3 ดาว เป็น 1-5 ดาว พร้อมทั้งยังได้แสดงข้อมูลของการลดการปล่อย Co2  และเพิ่มสัญลักษณ์เพื่อบ่งบอกถึงผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Circular Economy) เพื่อช่วยในการตัดสินใจเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ทั้งนี้สัญลักษณ์ดาวแต่ละดวงที่ปรากฏอยู่บนฉลากก็มีความหมายที่แตกต่างกัน ดังนี้ 

  • ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5: ไม่มีดาว

ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 แบบไม่มีดาว หมายถึง ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยประหยัดไฟได้เทียบเท่ากับฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ในรูปแบบเก่า

  • ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5: 1 ดาว

ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 แบบ 1 ดาว หมายถึง ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยประหยัดไฟได้มากกว่าผลิตภัณฑ์ที่ติดฉลากเบอร์ 5 แบบปกติ ได้ถึง 10-20%

  • ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5: 2 ดาว

ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 แบบ 2 ดาว หมายถึง ผลิตภัณฑ์ที่สามารถช่วยประหยัดไฟได้มากขึ้น 20-30% จากผลิตภัณฑ์ที่ติดฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ที่มี 1 ดาว

  • ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5: 3 ดาว

ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 แบบ3 ดาว หมายถึง ผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพในการประหยัดไฟได้ตั้งแต่ 30% ขึ้นไป จากผลิตภัณฑ์ที่ติดฉลากประหยัดไฟแบบปกติ

  • ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5: 4 ดาว

ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 แบบ4 ดาว หมายถึง ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในการประหยัดไฟได้สูงขึ้นกว่า 30% จากผลิตภัณฑ์ที่ติดฉลากที่ประหยัดไฟแบบ 3 ดาว

  • ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5: 5 ดาว

ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 แบบ 5 ดาว หมายถึง ผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพในการประหยัดไฟได้ในพลังงานที่สูงที่สุด

ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ครอบคลุมเรื่องใช้ไฟฟ้าประเภทใดบ้าง? 

ปัจจุบันนี้มีเครื่องใช้ไฟฟ้ามากมายที่เข้าร่วมโครงการฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 โดยจะมีการแสดงฉลากให้เห็นชัดเจนบนผลิตภัณฑ์ ซึ่งครอบคลุมในเครื่องใช้ไฟฟ้า ดังต่อไปนี้ 

  • ตู้เย็น 
  • เครื่องปรับอากาศ
  • หลอดไฟ
  • พัดลม
  • เครื่องซักผ้า
  • เครื่องทำน้ำอุ่น
  • หม้อหุงข้าว
  • เตารีด
  • โทรทัศน์
  • เครื่องฟอกอากาศ
  • กระติกน้ำร้อน
  • ไมโครเวฟ
  • กาต้มน้ำร้อนไฟฟ้า
  • ตู้แช่
  • ตู้น้ำร้อนน้ำเย็น
  • จักรยานไฟฟ้า

ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 นับว่าเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ต่อผู้บริโภคเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากจะช่วยบอกได้ถึงข้อมูลต่าง ๆ ที่สำคัญของผลิตภัณฑ์ ก็ยังสามารถช่วยบ่งบอกถึงข้อมูลการประหยัดพลังงานของผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าแต่ละรุ่นได้ด้วย ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพสูงสุดได้เป็นอย่างดี

Winner Light หนึ่งในผู้ผลิตและจัดจำหน่ายหลอดประหยัดไฟและอุปกรณ์ไฟฟ้าต่าง ๆ ที่น่าเชื่อถือและสามารถครองใจผู้บริโภคมาได้อย่างยาวนาน โดยสินค้าของ winner Light เป็นสินค้าที่มีคุณภาพ และผ่านการรับรองตามมาตรฐาน ซึ่งสามารถช่วยตอบโจทย์ตามมาตรการประหยัดพลังงานของรัฐบาลได้อย่างแน่นอน

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
เบอร์โทรศัพท์ : 02-415-7576-7, 081-880-6616
Facebook: www.facebook.com/bangbonstation