โลกของเราพัฒนาไปอย่างรวดเร็วจนเต็มไปด้วยเทคโนโลยี เพื่อตอบสนองต่อความต้องการและความสะดวกสบายของมนุษย์ แต่เบื้องหลังของการพัฒนาที่รวดเร็วนั้นกลับกลายเป็นดาบสองคม ที่ทำลายสิ่งแวดล้อมโดยที่เราไม่อาจย้อนกลับไปแก้ไขได้ และหนึ่งในสาเหตุสำคัญก็คือ การใช้พลังงานอย่างสิ้นเปลือง
ย้อนกลับไปตั้งแต่อดีต มนุษย์เริ่มหันมาใช้พลังงานฟอสซิล เพื่อความสะดวกสบายในยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม แต่ต้องแลกมากับการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจำนวนมหาศาลสู่ชั้นบรรยากาศ ส่งผลให้อุณหภูมิโลกสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนนำมาซึ่งสภาวะโลกเดือดที่เรากำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบัน
แต่ในปัจจุบันพลังงานทดแทนจากธรรมชาติได้กลับมามีบทบาทสำคัญอีกครั้ง ด้วยคุณสมบัติที่ สามารถหมุนเวียนทดแทนพลังงานเดิมและลดการปล่อยมลพิษทางอากาศได้ อีกทั้งยังเพิ่มความมั่นคงด้านพลังงานและยังช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว นี่จึงเป็นทางเลือกที่ยั่งยืนที่สุดในการตอบสนองความต้องการด้านพลังงานของมนุษย์ และช่วยให้โลกของเราน่าอยู่ขึ้นอีกครั้ง
พลังงานทดแทน คืออะไร?
พลังงานทดแทน คือ พลังงานที่ได้จากแหล่งธรรมชาติ เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม พลังงานน้ำ พลังงานความร้อนใต้พิภพ ซึ่งนำมาใช้ทดแทนพลังงานที่กำลังจะหมดไป อย่างพลังงานฟอสซิล เป็นแหล่งพลังงานที่เกิดจากการทับถมกันของสิ่งมีชีวิตแล้วแปรสภาพเป็นพลังงาน ที่เรานำมาใช้กันเป็นหลักในปัจจุบัน ได้แก่ ถ่านหิน น้ำมัน และก๊าซธรรมชาติ เป็นต้น ด้วยความที่ต้นทุนในการผลิตต่ำ ทำให้พลังงานฟอสซิลถูกใช้อย่างแพร่หลาย จนปริมาณที่เคยมีมหาศาลก็ใกล้หมดลง อีกทั้งยังปล่อยก๊าซเรือนกระจก ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศ
พลังงานทดแทน มีหลักการทำงานอย่างไร?
หลักการทำงานของพลังงานทดแทน สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ 2 รูปแบบ คือ
1. การนำไปใช้โดยตรง เช่น การใช้พลังงานความร้อนจากดวงอาทิตย์เพื่อการถนอมอาหาร การใช้พลังงานลมเพื่อการแล่นเรือในทะเล การใช้กังหันลมช่วยบดเมล็ดพืช การใช้กังหันน้ำโม่แป้ง หรือแม้แต่การเปิดหน้าต่างรับแสงสว่างจากดวงอาทิตย์ เป็นต้น
2. การนำไปใช้โดยเปลี่ยนพลังงานให้เป็นกระแสไฟฟ้า หมายถึง การแปลงพลังงานที่ได้จากธรรมชาติให้กลายเป็นกระแสไฟฟ้า เพื่อเอามาประยุกต์ใช้ในการทำไฟฟ้าทั้งระดับครัวเรือนและระดับอุตสาหกรรม
พลังงานทดแทน มีกี่ประเภท?
พลังงานทดแทนมีทั้งหมด 2 ประเภทด้วยกัน ซึ่งแบ่งได้ ดังนี้
1. พลังงานทดแทนประเภทสิ้นเปลือง (Nonrenewable energy)
พลังงานจากทรัพยากรธรรมชาติที่ใช้แล้วหมดไป ไม่สามารถสร้างขึ้นมาใหม่หรือหมุนเวียนกลับมาใช้ได้ในระยะเวลาอันสั้น ได้แก่ พลังงานปิโตรเลียม ถ่านหิน ก๊าซธรรมชาติ และพลังงานนิวเคลียร์ เป็นต้น
2. พลังงานทดแทนประเภทหมุนเวียน (Renewable energy)
พลังงานจากทรัพยากรธรรมชาติที่สามารถใช้ได้อย่างไม่มีวันหมด หรือสามารถหมุนเวียนนำกลับมาใช้ใหม่ได้ ได้แก่ พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม พลังงานน้ำ พลังงานชีวภาพ พลังงานชีวมวล และพลังงานความร้อนใต้พิภพ เป็นต้น
ตัวอย่างของพลังงานทดแทน มีอะไรบ้าง?
พลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Energy)
พลังงานแสงอาทิตย์ คือ พลังงานสะอาดที่อยู่เคียงคู่มนุษย์มานาน จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน เพราะพลังงานแสงอาทิตย์สามารถประยุกต์ใช้ได้หลากหลายทั้งทางตรงและทางอ้อมอย่างการนำไปเป็นกระแสไฟฟ้า ซึ่งเราเรียกกันว่า “โซลาร์เซลล์” ที่ไม่เพียงแต่จะช่วยประหยัดค่าไฟแต่ยังช่วยลดภาวะโลกร้อนได้อีกด้วย
พลังงานลม (Wind Energy)
พลังงานลม คือ พลังงานที่ได้จากธรรมชาติโดยเกิดจากความแตกต่างของอุณหภูมิและแรงดันอากาศ ทำให้เกิดกระแสลม พลังงานลมสามารถนำมาประยุกต์ใช้เป็นพลังงานอื่น ๆ ได้หลายรูปแบบ รวมถึงการผลิตกระแสไฟฟ้าด้วยเทคโนโลยีกังหันลม โดยกังหันลมจะทำหน้าที่เปลี่ยนกระแสลมที่พัดเข้ามาในรูปแบบพลังงานจลน์ไปเป็นพลังงานกลเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าต่อไป
พลังงานน้ำ (Hydropower)
พลังงานน้ำ คือ พลังงานธรรมชาติที่ได้จากมวลน้ำที่เคลื่อนที่ ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานหมุนเวียนที่สามารถใช้ได้อย่างต่อเนื่อง โดยหลักการทำงานพื้นฐานคือการใช้ประโยชน์จากพลังงานจลน์ของน้ำ ไม่ว่าจะเป็นการไหล การตก หรือการขึ้น-ลงของระดับน้ำ เพื่อไปขับเคลื่อนกังหันน้ำให้เกิดการหมุน จากนั้นกังหันจะส่งพลังงานกลไปหมุนเครื่องกำเนิดไฟฟ้า (Generator) เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าพลังงานสะอาด ซึ่งถือเป็นพลังงานสะอาดที่มีบทบาทสำคัญต่ออนาคตการใช้พลังงานที่ยั่งยืน
พลังงานชีวภาพและพลังงานชีวมวล (Biogas Energy/Biomass Energy)
พลังงานชีวภาพและพลังงานชีวมวล คือ พลังงานที่ได้จากการแปรสภาพของเสียต่าง ๆ เช่น ซากพืช ขยะอินทรีย์ น้ำเสียจากโรงงาน และมูลสัตว์ นำไปผ่านกระบวนการย่อยสลายแบบไร้ออกซิเจน (Anaerobic Digestion) ซึ่งเป็นกระบวนการที่มักเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ หรือ ใช้กระบวนการทางเคมีเร่งปฏิกิริยาและการเผาไหม้โดยตรง หลังจากนั้นจึงนำไปปรับปรุงคุณภาพให้กลายเป็นก๊าซชีวภาพ สามารถประยุกต์ใช้ในการผลิตเชื้อเพลิง พลังงานความร้อน และพลังงานไฟฟ้าได้อย่างหลากหลาย ช่วยสร้างพลังงานหมุนเวียน ลดจำนวนขยะมูลฝอยในครัวเรือนและภาคอุตสาหกรรม
พลังงานความร้อนใต้พิภพ (Geothermal Energy)
พลังงานความร้อนใต้พิภพ คือ พลังงานความร้อนจากใต้ผืนดิน ที่ถูกกักเก็บอยู่ในชั้นหินร้อนหรือน้ำร้อนใต้ดิน ผลิตกระแสไฟฟ้าได้โดยการให้ความร้อนแก่ของเหลวจุดเดือดต่ำจนเกิดเป็นไอน้ำ ไปขับเคลื่อนกังหันที่เชื่อมต่อกับเครื่องกำเนิดไฟฟ้าเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า แหล่งพลังงานนี้มักอยู่ตามรอยแยกของพื้นผิวโลก เช่น น้ำพุร้อน บ่อโคลนเดือด และลาวา เป็นต้น ทำให้มีความเสถียรภาพสูง ผันผวนต่ำ ไม่ต้องขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ แรงลม ฤดูกาล เหมือนกับพลังงานอื่น ๆ ในขณะเดียวกันก็มีข้อจำกัดทางด้านพื้นที่มาก และยังเสี่ยงต่อการเกิดแผ่นดินไหวด้วย

ประโยชน์ของพลังงานทดแทน
- ช่วยลดปัจจัยที่ทำให้เกิดก๊าซเรือนกระจก ลดการสร้างมลพิษสู่สิ่งแวดล้อม อันเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน
- สร้างความมั่นคงทางพลังงาน โดยการลดการนำเข้าเชื้อเพลิงจากต่างประเทศจะช่วยให้ประเทศมีความมั่นคงทางพลังงานมากขึ้น และยังช่วยลดความเสี่ยงจากราคาพลังงานโลกที่ผันผวนอีกด้วย
- ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ เกิดการกระจายรายได้ เมื่อสามารถผลิตพลังงานใช้ได้เองโดยไม่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ
- ลดปัญหาด้านสุขภาพของมนุษย์ การใช้พลังงานสะอาดช่วยให้มนุษย์มีสุขภาพดีขึ้นและอายุยืนยาวขึ้น เพราะพลังงานเหล่านี้ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย
- ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม ระบบนิเวศ และลดมลภาวะของโลก ที่จะก่อให้เกิดภาวะโลกร้อนทั้งทางตรงและทางอ้อม
ในเวลานี้พลังงานทดแทนถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่จะช่วยชะลอการเกิดผลกระทบต่อธรรมชาติแต่ในขณะเดียวกันก็ยังต้องพัฒนาอยู่อีกมาก เพื่อลดข้อจำกัดของพลังงานแต่ละชนิดให้มีความมั่นคง และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้เต็มรูปแบบเพื่อการใช้พลังงานอย่างยั่งยืนในอนาคต
นอกเหนือจากการศึกษาและทำความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการประหยัดพลังงานแล้ว การเลือกใช้สินค้าหรือผลิตภัณฑ์ประหยัดพลังงาน ถือเป็นอีกก้าวสำคัญที่นำไปสู่การใช้ไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อสร้างสังคมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
Winner Light เข้าใจถึงความสำคัญนี้ และพร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อน ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปี ในฐานะผู้นำด้านการผลิตและจัดจำหน่ายเสาไฟ-โคมไฟถนน เสาไฟถนนโซลาร์เซลล์ รวมถึงหลอดไฟประหยัดพลังงาน ที่ได้รับความไว้วางใจมาอย่างยาวนาน Winner Light พร้อมเป็นผู้ช่วยในการตอบโจทย์มาตรการประหยัดพลังงานได้อย่างครบวงจร
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
เบอร์โทรศัพท์ : 02-415-7576-7, 081-880-6616
Facebook: www.facebook.com/bangbonstation